เอ-20, เอ-32 ของ ที-34

ค.ศ. 1937 กองทัพแดงมอบหมายให้ มิคาอิล กอชกิ้น ( Mikhail koshkin ) ให้เป็นผู้นำทีมออกแบบรถถังที่จะมาแทนรถถังบีที พวกเขาก็ได้รถถังต้นแบบที่เรียกกันว่า เอ-20 ตามขนาดเกราะที่หนา 20 มม.ติดปืนขนาด 45 มม.และใช้เครื่องยนต์ วี-2ที่พัฒนาใหม่ ใช้น้ำมันดีเซลซึ่งติดไฟได้ยากกว่า มันมีล้อขนาด 8x6 คล้ายกับล้อขนาด 8x2 ของบีที ที่สามารถวิ่งได้แม้ไม่มีตีนตะขาบ ทำให้ไม่ต้องซ่อมบำรุงรักษาตีนตะขาบที่ในยุคนั้นยังไม่สมบูรณ์นัก มันทำความเร็วบนถนนได้กว่า 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนั้น ทีมออกแบบยังได้ยืมแนวคิดจากการวิจัยโครงการรถถังบีทีก่อนหน้านี้ เรื่องการโค้งมนของเกราะ เพื่อให้กระสุนที่ถูกยิงมาแฉลบออกไปมาใช้ด้วย แต่ข้อได้เปรียบในด้านการรบอื่นๆของ เอ-20 ยังไม่มี

กอชกิ้นได้ขอสตาลินเดินหน้าพัฒนารถถังต้นแบบรุ่น 2 เพื่อให้เป็นรถถังครอบจักรวาล ติดอาวุธหนักกว่า มีเกราะหนากว่า และสามารถใช้ทดแทนได้ทั้งรถถัง ที-26 และ บีที รถต้นแบบนี้พวกเขาเรียกมันว่า เอ-32 ตามความหนา 32 มม.ของเกราะด้านหน้า มันติดปืนขนาด 76.2 มม. และใช้เครื่องยนต์แบบ เอ-20 รถถังรุ่นนี้เคลื่อนที่ได้ดีพอๆกับ เอ-20 แม้จะหนักกว่า